พูดถึงของว่างเคลือบน้ำตาล เคยได้แนะนำสูตรทำมันเทศญี่ปุ่นเคลือบน้ำตาลหรือไดกักคุอิโมะ(大学芋) ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพไปแล้ว วันนี้จึงขอมานำเสนอเมนูเคลือบน้ำตาลจากวัตถุดิบอื่นๆ ที่สามารถสร้างความสุขและดีต่อสุขภาพได้เช่นกัน โดยจะมีเมนูอะไร แล้วมีวิธีการทำอย่างไรนั้น ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
1. ฟักทองเคลือบน้ำตาล
ฟักทองเคลือบน้ำตาลสูตรนี้มีรสชาติอร่อยจากส่วนผสมของฟักทองเนื้อนุ่มและความหวานของน้ำผึ้ง ที่เมื่อได้รับประทานแล้วก็อร่อยจนหยุดไม่ได้
วัตถุดิบ
- ฟักทอง 100 กรัม
- น้ำมันสำหรับทอด 1/2 ช้อนโต๊ะ
- งาดำตามชอบ
ส่วนผสมสำหรับเคลือบฟักทอง
- น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ
- มิริน 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 1/2 ช้อนโต๊ะ
- โชยุ 1/2 ช้อนชา
- น้ำส้มสายชูหมัก 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ล้างฟักทองให้สะอาด เอาเมล็ดออก และหั่นให้มีขนาดพอคำ
2. นำฟักทองใส่ในภาชนะทนร้อน ใช้พลาสติกแรปปิดหลวม ๆ นำเข้าไมโครเวฟที่ 600 วัตต์ เป็นเวลา 3 นาที จากนั้นนำฟักทองเทพักให้สะเด็ดน้ำบนตะแกรง เมื่อฟักทองเย็นลงก็ใช้กระดาษชำระสำหรับงานครัวเช็ดเอาน้ำออก
3. ตั้งกระทะบนไฟกลาง เติมน้ำมันลงไป เติมฟักทองลงไปทอดจนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแล้วตักฟักทองใส่จานพักไว้
4. นำส่วนผสมสำหรับเคลือบฟักทองใส่ลงไปในกระทะ เคี่ยวจนส่วนผสมเดือด แล้วจึงเติมฟักทองลงคลุกเคล้าให้ทั่ว รอจนของเหลวข้นหนืดแล้วจึงตักฟักทองใส่จานและโรยด้วยงาดำตามชอบ
2. เต้าหู้ทอดอะบุระอาเกะเคลือบน้ำตาล
เต้าหู้ทอดเคลือบน้ำตาลมีเนื้อสัมผัสกรุบหวานอร่อยเหมาะสำหรับรับประทานเป็นของว่างหรือรับประทานกับข้าวสวย
วัตถุดิบ
- เต้าหู้ทอดอะบุระอาเกะ 1 ชิ้น
- แป้งมันฝรั่ง 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมัน 2 ช้อนชา
- งาดำ ตามชอบ
ส่วนผสมสำหรับเคลือบเต้าหู้
- น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
- โชยุ 1 ช้อนชา
- มิริน 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชูหมัก 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ใช้มือฉีกเต้าหู้ให้มีขนาดพอคำ คลุกเคล้ากับแป้งมันฝรั่งในทั่ว แล้วนำทอดในกระทะด้วยไฟกลางจนเต้าหู้กรอบแล้วจึงตักพักใส่ภาชนะไว้
2. ใช้กระดาษชำระสำหรับงานครัวเช็ดน้ำมันออกจากกระทะ แล้วเติมส่วนผสมเครื่องปรุงสำหรับเคลือบเต้าหู้ลงไป เคี่ยวจนส่วนผสมเดือด แล้วจึงเติมเต้าหู้ทอดลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว รอจนของเหลวข้นหนืดแล้วจึงตักใส่จานและโรยด้วยงาดำตามชอบ
ทั้งฟักทองและเต้าหู้อะบุระอาเกะเคลือบน้ำตาลสามารถเป็นของว่างที่ดีในช่วงเทศกาลกินเจและเป็นของว่างยามบ่ายที่เป็นมิตรต่อสุขภาพมากกว่าเค้กหรือขนมอบ หากรู้สึกว่าเบื่อขนมหวานแบบเดิม ๆ ก็ลองทำเมนูดังกล่าวดูค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก: buzzfeed.com