ใกล้จะปลายปีแบบนี้ก็เข้าสู่ช่วง เทศกาลของการมอบของขวัญ ให้แก่กัน ในปัจจุบันมีของขวัญมากมายหลากหลายชนิดให้ได้เลือกสรร แต่ในสมัยก่อนล่ะเขาให้อะไรกันนะ? เราจะพาไปดูกันค่ะว่าในช่วงสมัยเซ็นโกคุผู้คนนิยมให้อะไรเป็นของขวัญกันบ้าง รวมถึงช่วงเวลาที่ให้ของขวัญและมารยาทที่ควรทำเมื่อมอบของขวัญให้ผู้อื่น ดูซิว่าจะเหมือนสมัยนี้หรือเปล่านะ
ของขวัญสุดคลาสสิกในสมัยเซ็นโกคุ
1. ม้าและดาบทาจิ
ของขวัญที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสมัยเซ็นโกคุคือ ม้าและดาบทาจิ เพราะว่ากันว่าเป็นของขวัญที่พวกไดเมียวส่วนใหญ่นำมามอบให้ผู้บัญชาการโอดะ โนบุนางะ เซ็ตของขวัญ 2 ชิ้นนี้ยังจัดเป็นของขวัญมาตรฐานสำหรับครอบครัวซามูไรในสมัยนั้น แต่หากไม่สามารถพาม้าไปยังสถานที่ห่างไกลได้ บางครั้งจะเปลี่ยนเป็นการให้เงินจำนวนหนึ่งเป็นค่าธรรมเนียมม้าแทน ในเวลานั้นมีอาวุธอีก 2 ชนิดที่ได้รับความนิยมเช่นกันคือดาบอุจิกาตะนะและมีดสั้น แต่สำหรับในพิธีการ การมอบดาบทาจิจะดีที่สุด
2. สิ่งของต่าง ๆ เช่น ผ้า ขนสัตว์ กระดาษ ฯ
สิ่งของต่าง ๆ อย่างพวกผ้า ขนสัตว์ กระดาษ ก็เป็นของขวัญยอดนิยมเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อผู้รับของขวัญนั้นไม่เหมาะกับการมอบม้าและดาบให้ เช่น พระสงฆ์หรือบุคคลที่ไม่ใช่นักรบซามูไร จึงต้องเน้นไปที่สิ่งของอื่น ๆ อย่างพวกสิ่งทอนำเข้าที่คุณภาพสูงแทน เช่น ผ้าลินิน ผ้าซาติน ผ้าเนรินูคิ รวมถึงขนสัตว์ เป็นต้น
นอกจากนี้ก็ยังมีการมอบ กระดาษ เป็นมัด ๆ ให้เป็นของขวัญ ใน 1 มัด ก็จะมีประมาณ 500 แผ่น ส่วนของขวัญอื่น ๆ ก็จะมีผลไม้ ขนมหวานตามฤดูกาล ของใช้ในชีวิตประจำวัน และสินค้านำเข้าอย่างเช่น เกราะและถุงมือ อุปกรณ์ชงชา สัตว์เลี้ยง เครื่องเรือน หนังสือและภาพวาด เป็นต้น
3. อาหาร สาเก และกับแกล้ม
อาหารอย่างพวกสาเกและกับแกล้มก็เป็นของขวัญมาตรฐานที่ให้กันในสมัยเซ็นโกคุ โดยมักจะมาในเซ็ตที่ประกอบไปด้วยสาเก 2 ถัง และอาหารแห้งหลากหลายชนิด สำหรับการจัดส่งก็สามารถส่งให้ผู้รับที่อยู่ไกลถึงโอซาก้าหรือเกียวโตได้โดยไม่เน่าเสีย
ที่เกียวโตในช่วงสงครามโอนินยังมีประเพณีการให้แตงกันในวันฮัซซาคุ (วันที่ 1 เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ) และในวันปีใหม่ก็มีธรรมเนียมที่โชกุนจะมอบสัตว์ที่ตนล่ามาได้ให้แก่จักรพรรดิด้วย โดยว่ากันว่า อาชิคางะ โยชิอากิ และ โอดะ โนบุนางะ ผู้มีชื่อเสียงก็เคยนำสัตว์ที่ตนล่ามาไปมอบแก่จักรพรรดิเช่นกัน
4. เงินสด
หากไม่สามารถเตรียมของขวัญให้ได้หรือผู้รับอยู่ห่างไกลมาก บางครั้งจะมีการห่อเงินสดไปให้แทน กรณีเดียวกับการมอบค่าธรรมเนียมม้า หรือไม่ก็ส่งร่วมกับสิ่งของอื่น ๆ ไปด้วย เหรียญในสมัยนั้นจะทำโดยการหล่อจากทองคำ เงิน หรือทองแดง หรือใช้เหรียญทองแดงที่นำเข้าจากจีน เรียกว่า โทไรเซ็น (渡来銭)
ช่วงเวลาแห่งการมอบของขวัญในสมัยเซ็นโกคุ
สิ้นปีและปีใหม่
ช่วงสิ้นปีและปีใหม่ เป็น 1 ใน 3 เทศกาลที่ผู้คนมอบของขวัญแก่กันในสมัยมุโรมาจิและเซ็นโกคุไม่ต่างกับในปัจจุบัน แต่ในสมัยนั้นความที่สภาพถนนย่ำแย่ไปตามฤดูกาลและทำให้การขนส่งไม่สะดวกสบายนัก จึงเป็นเรื่องปกติที่ของขวัญจะส่งล่าช้าตั้งแต่หลายวันจนถึงหลายเดือน
กลางปี
นอกจากช่วงสิ้นปีและปีใหม่แล้ว ช่วงกลางปีก็เป็นอีก 1 ใน 3 เทศกาลที่ผู้คนมอบของขวัญแก่กันในสมัยมุโรมาจิและเซ็นโกคุ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีธรรมเนียมนี้อยู่ เรียกว่า โอะจูเก็น (お中元) ในสมัยใหม่ไม่มีกำหนดวันที่แน่นอน แต่ในสมัยนั้นผู้คนจะมอบของขวัญแก่กันในวันฮัซซาคุ (วันที่ 1 เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ)
ช่วงเวลาสำคัญในชีวิต
มีธรรมเนียมการให้ของขวัญแก่ผู้ชายเป็นหลักในช่วงที่เป็นจุดเปลี่ยนหรือช่วงเวลาสำคัญในชีวิต เช่น พิธีเก็มปุกุ (พิธีฉลองการเจริญวัยบรรลุนิติภาวะ), การออกศึกครั้งแรก, การสืบทอดสกุล, การให้กำเนิดบุตรชาย โดยเฉพาะหากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ผู้ให้ก็จะเลือกของมีค่ามีราคาหรือของเก่าแก่ให้แตกต่างจากสิ่งของทั่วไป
การเข้าสังคม-เยี่ยมเยียน
ผู้คนมักจะให้ของขวัญกันในสถานการณ์อื่น ๆ ในสังคมด้วย เช่นการไปเยี่ยมบ้านคนอื่นก็ควรนำของขวัญไปฝาก หรือเมื่อส่งจดหมายเป็นครั้งแรกหรือหลังจากไม่ได้ส่งหากันนาน ก็จะแนบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดไปด้วย นอกจากนี้ ของขวัญก็มีความสำคัญเช่นกันในช่วงสงครามในสมัยมุโรมาจิและเซ็นโกคุ เมื่อคนรู้จักไปออกศึกสงคราม หากไปเยี่ยมเยียนในสนามรบก็จะนำของขวัญไปให้ด้วยเสมอ หากสู้ชนะก็ถือเป็นของขวัญแสดงความยินดี แต่หากพ่ายแพ้ก็ถือเป็นของขวัญให้กำลังใจ
มารยาทในการให้ของขวัญในสมัยเซ็นโกคุ
ในสมัยเซ็นโกคุ มีธรรมเนียมมารยาทในการให้ของขวัญคือการแนบจดหมายหรือรายการที่มีรายละเอียดของของขวัญไปด้วย หากไม่มีจดหมายหรือรายละเอียดแนบมาด้วยจะถือว่าไม่มีมารยาทและหยาบคายมาก ผู้รับอาจไม่พอใจจนไม่ยอมรับของขวัญนั้นหรือไม่ส่งของขวัญตอบแทนให้ แต่ก็ดูเหมือนจะมีข้อยืดหยุ่นได้บ้างว่าหากเป็นคนในครอบครัว เพื่อนสนิท ผู้ที่มีสถานะต่ำกว่าก็ไม่จำเป็นต้องแนบจดหมาย
จะเห็นได้ว่าของขวัญบางประเภทหรือช่วงเวลาในการมอบของขวัญ บางอย่างก็แตกต่างกับปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง บางอย่างก็ไม่แตกต่างกันนัก แต่ก็มีเรื่องน่าทึ่งที่ถึงแม้บ้านเมืองจะอยู่ในช่วงท่ามกลางศึกสงคราม ผู้คนก็ยังสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันผ่านการแลกเปลี่ยนของขวัญได้ น่ารักมากเลยนะคะ
สรุปเนื้อหาจาก gifcal