หากใครเป็นสายกิน คงจะเคยได้ยินการไปทานอาหารญี่ปุ่นแบบ “โอมากาเสะ” แต่มีใครรู้ไหมคะว่าแท้จริงแล้วคำนี้หมายถึงอะไร ในบทความนี้จะมาอธิบายเกี่ยวกับประวัติรวมถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องด้วยค่ะ
ความหมายของ “โอมากาเสะ”
ความหมายที่แท้จริงของ “โอมากาเสะ” คือ การไว้วางใจให้พ่อครัวเลือกอาหารที่จะจัดเตรียมไว้ให้เราโดยที่เราไม่ต้องสั่ง เช่น เหมือนเราไปร้านประจำแล้วเจ้าของร้านรู้ใจเราว่า ควรจัดอาหารอะไรมาเสิร์ฟดี เราก็อาจจะพูดแค่ว่า “โอมากาเสะ”
ความหมายด้านรากศัพท์ของ โอมากาเสะ มาจากคำกริยาว่า มากาเสะรุ (任せる) หมายถึง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ..(ตัวของคนพูด) แนวคิดเกี่ยวกับความรับผิดชอบ ภาระผูกพัน และความไว้วางใจ เพราะฉะนั้นการพูดว่า โอมากาเสะ ก็เหมือนพูดว่า Surprise me!
เชื่อกันว่าโอมากาเสะมีต้นกำเนิดมาจากอาหารไคเซกิ ซึ่งปรุงตามสั่งและเสิร์ฟทีละจานเล็กๆ คล้ายอาหารชั้นสูง หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เป็นเมนูทดลอง นอกจากนี้ ยังมีคำที่นิยมที่คล้ายกันอีกก็คือ “โอซุซุเมะ” ซึ่งหมายถึง คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะ แต่โอมากาเสะ เป็นคำที่ลึกกว่า หมายถึง ความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ของพ่อครัวต่อมื้ออาหารของลูกค้า ที่จริงแล้วเราสามารถใช้คำนี้กับร้านอาหารใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นร้านซูชิ หรือจะพูดคำนี้กับเพื่อนที่จัดเตรียมมื้ออาหารให้ก็ได้
ที่ร้านอาหารบางแห่ง ปริมาณของอาหารโอมากาเสะจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับจำนวนคำที่เราเลือก โดยเชฟจะเลือกวัตถุดิบตามฤดูกาล และเตรียมสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดไว้ให้กับมื้ออาหารนั้นๆ ถึงแม้เราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารได้หลังจากเลือกทานแบบโอมากาเสะไปแล้ว แต่ก็สามารถบอกได้ว่าแพ้อาหารอะไรบ้าง โอมากาเสะทำให้เราได้มีโอกาสสนทนากับเชฟ สามารถคาดหวังอาหารที่เชฟปรับให้เข้ากับรสนิยมของเราได้ แต่อาจต้องรอนานหน่อยและมีบางกรณีที่ราคาถูกกว่าในเมนูค่ะ
หากใครมีโอกาสได้ไปร้านอาหารประเภทนี้ ลองเลือกที่นั่งใกล้ๆ เชฟสิคะ ได้เห็นว่าเขาปรุงอาหารยังไง หรือมีวัตถุดิบแบบไหนบ้างก็เพลิดเพลินไม่น้อย นอกจากนี้อาจต้องจองก่อนไปรับประทานอาหารที่ร้าน ขอแนะนำว่าอย่าใช้น้ำหอมเพื่อที่จะได้สัมผัสทั้งกลิ่นและรสชาติของอาหารอย่างแท้จริง และควรเว้นระยะห่างในการพูดคุยกับเชฟเพื่อไม่ให้เชฟเสียสมาธิ
ความแตกต่างระหว่างโอมากาเสะกับไคเซกิ
ไคเซกิ ถือเป็นหนึ่งในอาหารที่แพงที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยความเอาใจใส่และการนำเสนอที่สวยงาม เป็นชุดอาหารหรูหราที่จัดเตรียมอย่างปราณีต มักเสิร์ฟทีละจาน ๆ ตามลำดับจนจบคอร์ส
ถึงแม้จะมีคำกล่าวว่า โอมากาเสะมีต้นกำเนิดมาจากไคเซกิ แต่ทั้งสองสิ่งต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยโอมากาเสะเป็นคำกริยาเกี่ยวกับอาหารที่เป็นสากล ในขณะที่ไคเซกิ เป็นอาหารประเภทหนึ่งที่เน้นอาหารท้องถิ่นตามฤดูกาล โดยมีวิธีการเตรียมและให้บริการลูกค้าที่เป็นเอกลักษณ์ โอมากาเสะ ช่วยให้เราลิ้มรสได้เกือบทุกอย่างที่เชฟนำเสนอ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะสั่งอาหารแบบไหน
สามารถหาโอมากาเสะทานได้ที่ไหน
ร้านอาหารสไตล์โอมากาเสะถือว่าฮอตฮิตมากในประเทศไทย เพียงลองเสิร์ชใน google ร้านแนะนำก็จะเด้งขึ้นมาพรึ่บพรั่บ หากใครอยากสัมผัสประสบการณ์การทานอาหารรูปแบบใหม่ที่เราไม่ต้องเลือกเอง แต่วางใจให้เชฟทำอาหารมาเสิร์ฟให้ ก็ลองไปทานดูสักครั้งนะคะ
โอมากาเสะ เป็นประเภทอาหารที่ทางเชฟอยากนำเสนอทั้งวิธีการเสิร์ฟ วัตถุดิบ และเมนูให้เราก็เพียงเท่านั้น หากหลายท่านยังคงสงสัยถึงความหมายของโอมากาเสะ ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คำตอบได้นะคะ
สรุปเนื้อหาจาก skdesu
ผู้เขียน: にゃんまる
