ถ้าพูดถึงขนมฝรั่งในร้านสะดวกซื้อหรือซูเปอร์มาร์เก็ตที่หาซื้อได้ง่าย คงจะหนีไม่พ้น “เอแคลร์” กันใช่ไหมคะ ว่าแต่เอแคลร์ มีประวัติความเป็นมาและเข้ามาในญี่ปุ่นได้อย่างไร วันนี้เราจะไปสืบค้นประวัติกันค่ะ
รู้จักกับ “เอแคลร์” ขนมหวานสายเลือดฝรั่งเศส
ขนมเอแคลร์ (Éclair) มีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส มีความหมายแปลได้ว่า “สายฟ้า” เนื่องจากมีลักษณะรูปร่างทรงยาวเหมือนกับสายฟ้า ในส่วนของที่มานั้นก็มีหลายทฤษฎีด้วยกัน เช่น เวลาที่เอาแป้งเอแคลร์ออกมาจากเตาหลังอบเสร็จ ผิวของแป้งจะเกิดการแตกออกเป็นลายรูปร่างคล้ายเส้นสายฟ้า หรือบางทฤษฎีก็ได้อธิบายไว้ว่าช็อกโกแลตที่ราดบนหน้าเอแคลร์เมื่อสะท้อนโดนแสงจะเกิดเป็นแสงสว่างราวกับสายฟ้า หรือจากทฤษฎีที่ว่าต้องรีบกินเจ้าเอแคลร์ให้หมดอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดเพราะถ้ากินช้าช็อกโกแลตที่ราดเคลือบหน้าไว้ก็จะละลายหายไปหมด เป็นต้น
ส่วนของไส้ขนมเอแคลร์ หากดูตามแบบฝรั่งเศสดั้งเดิมไส้ด้านในจะเป็นครีมคัสตาร์ด ไม่ก็ช็อกโกแลต ส่วนด้านบนจะโรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่งหรือราดด้วยซอสช็อกโกแลต ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างกับเอแคลร์ที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่นช่วงแรกเท่าไรนัก ทว่าต่อมา เอแคลร์ในญี่ปุ่นก็ได้มีการปรับเปลี่ยนทั้งในส่วนของไส้ด้านในและผิวหน้าด้านบนไปตามยุคสมัย ปัจจุบันเราจะพบเห็นว่านอกเหนือไปจากไส้ครีมคัสตารด์หรือไส้ครีมช็อกโกแลตแล้ว ยังมีไส้ครีมชาเขียว สตรอว์เบอร์รี ครีมกาแฟ เป็นต้น อีกด้วย ส่วนผิวหน้าด้านบนก็ได้เปลี่ยนจากการโรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่งหรือซอสช็อกโกแลต มาเป็นราดด้วยครีมสดรสชาติต่างๆ เช่น รสกาแฟ รสชาเขียว รสส้ม ส่วนบนหน้าก็มีการประดับตกแต่งเพิ่มด้วยถั่วหรือผลไม้อบแห้งนานาชนิด
การเข้ามาของเอแคลร์ในญี่ปุ่น
ทั้งนี้ เอแคลร์เข้ามาในญี่ปุ่นเมื่อไรนั้น เชื่อกันว่ามาจากร้านขนมฝรั่งในเมืองโยโกฮาม่าที่ชื่อว่า “โยโกฮาม่าอาคารเลขที่ 85” ของเซฟชาวฝรั่งเศส นายซามูเอล ปิแอร์ เมื่อประมาณปี ค.ศ.1896 ทว่าการที่เอแคลร์กลายมาเป็นขนมฝรั่งที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายนั้น มาจากฝีมือการผลิตและวางจำหน่ายของร้านขนมชื่อดังเก่าแก่ในญี่ปุ่น ชื่อร้าน “ฟูจิยะ (FUJIYA)” ที่ตั้งขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ.1910 โดยขนมที่ร้านได้ผลักดันจนกลายเป็นขนมที่มีชื่อเสียงก็ได้แก่ เค้กคริสต์มาส ชูครีมและเอแคลร์
ในช่วงแรกของการจำหน่าย เอแคลร์ถือว่ายังเป็นขนมที่มีราคาแพง คนทั่วไปไม่สามารถหาซื้อกินได้ แต่ก็ยังถือว่าเป็นขนมฝรั่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่สุภาพสตรีวัยรุ่น กล่าวกันว่าถือเป็นขนมที่ขาดไม่ได้เลยในร้านอาหารฝรั่งหรือตามคาเฟ่ ขนมเอแคลร์ยังได้ถูกนำไปแต่งเป็นเพลงกล่อมเด็กของนักประพันธ์และนักเขีบนบทกลอนชาวญี่ปุ่น คุณยะโซะ สะอิโจ ในบทเพลงที่ชื่อว่า “ลูกสาวกับขนม” โดยในปัจจุบันนิยมนำเพลงดังกล่าวมาขับร้องแบบประสานเสียงหรือโอเปร่าอีกด้วย
เท่านี้เราก็ทราบกันแล้วนะคะว่าขนมเอแคลร์เข้ามาญี่ปุ่นได้อย่างไร และทำไมถึงกลายเป็นขนมที่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าทุกคนมีโอกาสแนะนำให้ลองชิมขนมเอแคลร์กันดูนะคะ
เรียบเรียงโดย XROSSX
ที่มา mag.japaaan morin.amebaownd news.1242