พุดดิ้งเป็นขนมหวานที่ทุกคนชื่นชอบตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ด้วยเนื้อสัมผัสที่เด้งดึ๋งทานง่าย รสชาติหอมหวาน โดยเฉพาะในญี่ปุ่นที่จะเห็นเด็ก ๆ ชอบทานพุดดิ้งกันเยอะมาก แต่ขนมที่หน้าตาดูเป็นฝรั่งแบบนี้มาฮิตในญี่ปุ่นได้อย่างไร ? เรามาดูประวัติความเป็นมาของการพัฒนาพุดดิ้งในญี่ปุ่นกันค่ะ
แรกเริ่มจากพุดดิ้งแบบยุโรปตะวันตก
พุดดิ้งมีแหล่งกำเนิดมาจากยุโรปโดยอาหารดั้งเดิมที่เป็นต้นแบบก็คือพุดดิ้งของอังกฤษ โดยในปัจจุบันถ้าพูดถึงพุดดิ้ง เราอาจนึกภาพพุดดิ้งคัสตาร์ดรสหวานแบบของญี่ปุ่น แต่ในอังกฤษคำว่าพุดดิ้งจะใช้หมายถึงอาหารประเภทอบนึ่งทุกชนิด! ต้นกำเนิดของพุดดิ้งมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นยุคสมัยแห่งการเดินเรือเพื่อออกสำรวจดินแดนใหม่ แต่ในขณะที่ออกเดินทางเพื่อการต่อสู้ทางอำนาจ เหล่ากะลาสีลูกเรือที่อยู่กลางทะเลเป็นเวลานานก็ต้องประสบปัญหาเรื่องอาหารการกินที่ร่อยหรอ วัตถุดิบบางอย่างที่ไม่สามารถเก็บไว้ทานในวันถัดไปได้ จะทิ้งก็เสียดาย ดังนั้นจึงเกิดการคิดเมนูอาหารที่นำเนื้อสัตว์และผักที่เหลือมาผสมกับไข่แล้วนำไปนึ่ง ซึ่งต่อมาเรียกกันว่า “พุดดิ้ง”
หลังจากนั้นเมนูพุดดิ้งเริ่มกลายเป็นอาหารที่ทานกันในชีวิตประจำวันในอังกฤษแผ่นดินใหญ่ และมีความหลากหลายเพิ่มขึ้นอย่างการใส่ส่วนผสมที่มีรสหวาน เช่น ผลไม้ ขนมปัง ในขณะเดียวกันช่วงศตวรรษที่ 18-19 ในฝรั่งเศษมีการคิดค้นพุดดิ้งคัสตาร์ดที่ทำจากไข่เท่านั้น จนกลายมาเป็นต้นแบบของพุดดิ้งสมัยใหม่
ส่งต่อมาสู่ประเทศญี่ปุ่น
ว่ากันว่าพุดดิ้งถูกเผยแพร่เข้ามาในญี่ปุ่นช่วงปลายสมัยเอโดะถึงต้นสมัยเมจิ ในเวลานั้นชาวญี่ปุ่นเริ่มให้ความสนใจในวัฒนธรรมตะวันตกเพิ่มมากขึ้น ชาวต่างชาติหรือพวกนักเรียนนอกบางคนก็มีการสอนสูตรพุดดิ้งให้ชาวญี่ปุ่นด้วย
ในปี 1872 มีการตีพิมพ์หนังสือสูตรอาหารตะวันตกชื่อว่า เซโยเรียวริซือ (西洋料理通) หนังสือเล่มนี้มีไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเมจิและนักการทูต ถือว่าเป็นตำราอาหารตะวันตกเล่มแรกที่ตีพิมพ์ในญี่ปุ่น ซึ่งภายในมีสูตรการทำพุดดิ้งโดยมีส่วนผสมของไข่ นม น้ำตาล แล้วนำไปนึ่ง แต่ในขณะนั้น วัตถุดิบอย่างไข่และนมมีราคาแพงและหาซื้อได้ยากในญี่ปุ่น ผู้คนจึงสามารถหาพุดดิ้งทานได้ตามร้านอาหารและโรงแรมเท่านั้น นอกจากนี้อุปกรณ์ในการทำอย่างหม้อนึ่งและเตาอบยังไม่มีจำหน่ายทั่วไป จึงทำทานเองที่บ้านไม่ค่อยได้ ในช่วงเวลานั้นพุดดิ้งจึงเป็นของหวานที่หายากและคนธรรมดาทั่วไปก็มีโอกาสน้อยมากที่จะได้ลิ้มรสขนมชนิดนี้
ของหวานสามัญประจำบ้าน
พุดดิ้งเริ่มได้รับความนิยมจนกลายเป็นของหวานสามัญประจำบ้านในช่วงปี 1964 ซึ่งเป็นช่วงที่ไฟฟ้าและแก๊ซมีใช้รวมถึงมีตู้เย็นใช้อย่างแพร่หลาย วัตถุดิบอย่างไข่และนมก็ราคาถูกลง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการทำพุดดิ้งก็เริ่มมีจำหน่าย
ต่อมาในปี 1972 กูลิโกะได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Putchin Pudding (プッチンプリン) โดยมีวิธีการแกะออกจากถ้วยได้ง่าย ๆ และทานได้อย่างสะดวก ถือเป็นไอเดียที่แปลกใหม่ในขณะนั้นจนได้รับการตอบรับที่ดีมากและกลายเป็นที่ฮอตฮิตอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีการทำพุดดิ้งย่างและพุดดิ้งเนื้อแข็ง เกิดเป็นความหลากหลายของพุดดิ้งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน
พุดดิ้งแต่ละประเทศมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป อย่างเช่นในบราซิลเป็นพุดดิ้งเนื้อแข็งที่ทำจากนมข้นหวาน เรียกว่าปูจิน ส่วนในเยอรมันจะเป็นขนมที่มีลักษณะเป็นครีมหนาข้น ซึ่งก็มีชื่อว่าพุดดิ้งเช่นกัน พุดดิ้งเป็นของหวานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยรสชาติที่เรียบง่าย และความสนุกสนานในการดัดแปลงได้อย่างอิสระ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมของหวานชนิดนี้จึงเป็นที่รักไปทั่วโลก
สรุปเนื้อหาจาก mag.japaaan