4 เคล็ดลับความสำเร็จของเมจิ-Featured

ถ้าได้ยินชื่อ “เมจิ” คนไทยเราจะนึกถึง “ซีพี-เมจิ” แบรนด์ผลิตภัณฑ์นมวัวกัน แต่ถ้าเป็นที่ประเทศญี่ปุ่นล่ะก็ หลายคนคงนึกถึง “ช็อกโกแลต” แทน เพราะเมจิ (Meiji) จัดเป็น 1 ใน 3 แบรนด์ Top Seller ในอุตสาหกรรมช็อกโกแลตญี่ปุ่นมากว่า 100 ปี ถือเป็นความสำเร็จในระดับที่ไม่ธรรมดา และในบทความนี้ เราจะมาดู 4 องค์ประกอบในสูตรความความสำเร็จที่พาให้เมจิขึ้นแท่นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในวงการช็อกโกแลตญี่ปุ่นกัน

1. รักษาความอร่อยของ “ช็อกโกแลตนมเมจิ” ด้วยสูตรดั้งเดิมที่มีอายุกว่า 100 ปี

4 เคล็ดลับความสำเร็จของเมจิ-ช็อกโกแลตนม

เชื่อไหม? ช็อกโกแลตนมเมจิที่เรากินกันทุกวันนี้ ไม่เคยเปลี่ยนสูตรเลยแม้แต่น้อยตั้งแต่เริ่มผลิตเป็นครั้งแรกในปี 1926 โดยใช้วัตถุดิบง่ายๆ เพียง 3 อย่าง ได้แก่เมล็ดโกโก้ นมวัว และน้ำตาลเท่านั้น และไม่ใช้น้ำมันพืชเลย ซึ่งความที่ช็อกโกแลตนมเมจิเป็นขนมที่ใช้วัตถุดิบเรียบง่ายและส่งต่อความอร่อยดั้งเดิมของเมจิอยู่เสมอมา จึงเปรียบเหมือนขนมที่ช่วยอนุรักษ์สูตรช็อกโกแลตนมต้นตำรับของแบรนด์ไว้

แม้จะบอกว่าไม่เปลี่ยนสูตรเลย แต่ช็อกโกแลตนมเมจิก็ถูกพัฒนาด้วยการเฟ้นหาวัตถุดิบที่ดีกว่าเดิมและพัฒนาเทคนิคการแปรรูปวัตถุดิบอยู่เสมอ เพื่อตอบรับความชอบช็อกโกแลตของผู้คนที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย โดยที่ยังคงยึดการใช้สูตรช็อกโกแลตนมเมจิต้นตำรับที่คนญี่ปุ่นตกหลุมรักเมื่อ 100 ปีก่อนเสมอมา

2. สร้างนิยามใหม่ ให้ช็อกโกแลตเป็นมากกว่าขนมสำหรับเด็ก

ในอีกด้าน เมจิสร้างนิยามใหม่ให้ช็อกโกแลต จาก “ขนมสำหรับเด็ก” ให้เป็น “ขนม Luxury ของผู้ใหญ่” ด้วยซีรีส์ “Meiji The Chocolate” (เมจิ เดอะ ช็อกโกแลต) ที่มาในแพกเกจเรียบหรูแบบที่คนวัยทำงานอายุ 20-30 ปีจะชื่นชอบ ที่สำคัญ Meiji The Chocolate มีลูกเล่นคือการให้ผู้คนได้สนุกกับรสชาติและกลิ่นที่หลากหลายแถมมีเอกลักษณ์ของช็อกโกแลตทั่วโลกได้ โดยมีให้เลือกว่าอยากอร่อยกับช็อกโกแลตแบบหอมกลิ่นแนวฟลอรัลของเปรู หรือแบบหอมถั่วของเวเนซูเอลา หรือจะเป็นแบบหอมฟรุตตี้ของสาธารณรัฐโดมินิกัน แถมด้วยความที่ผสมโกโก้เข้มข้น 50-70% Meiji The Chocolate จึงเป็นช็อกโกแลตที่ผู้ใหญ่ก็สนุกและอร่อยได้ไม่แพ้ตอนเป็นเด็ก

อีกแบรนด์ช็อกโกแลตที่เมจิทำขึ้นมาเพื่อกลุ่มผู้ใหญ่ก็คือ “Chocolate Kouka” (ช็อกโกแลต โคคะ)​ ช็อกโกแลตขนาดพอดีคำที่ทั้งขมอร่อยกำลังดีและมีประโยชน์ด้านสุขภาพและความงาม เพราะมีส่วนผสมผงโกโก้มากถึง 72% ตอบโจทย์คนที่ต้องการประโยชน์เต็มๆ จากโพลีฟีนอลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของโกโก้ Chocolate Kouka จึงเป็นขนมที่ทำให้การกินช็อกโกแลตถือเป็นการดูแลตัวเองไปด้วยในตัว

3. ให้ช็อกโกแลตเป็นจดหมายเหตุกระแสในญี่ปุ่น

4 เคล็ดลับความสำเร็จของเมจิ-อะพอลโล 11 Apollo
ยานอะพอลโล 11 และขนม Apollo ที่มีรูปทรงเหมือน Command Module ของยาน

นอกจากจะทำให้ช็อกโกแลตเป็นขนมที่ผู้ใหญ่ก็อร่อยได้แล้ว เมจิยังทำให้ช็อกโกแลตเป็นเหมือนจดหมายเหตุที่บันทึกกระแสฮิตในญี่ปุ่นด้วยการออกขนมที่เหมาะกับเหตุการณ์ ณ ช่วงนั้นด้วย เช่นขนมช็อกโกแลตรูปโคนชื่อ “Apollo” (อะพอลโล) ซึ่งเดิมเมจิมีแผนจะทำขนมที่ใช้ชื่ออะพอลโล (เทพแห่งดวงอาทิตย์ของกรีกโบราณ) อยู่แล้ว และประจวบเหมาะกับที่ยานอะพอลโล 11 ลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลกในเดือนกรกฎาคมปี 1969 พอดี ขนม Apollo จึงได้ฤกษ์วางแผงเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน ซึ่งหน้าตาของขนม Apollo ก็มาจากรูปทรงโคนของยานอะพอลโล 11 นั่นเอง และยังคงมีขายอยู่จนทุกวันนี้ด้วย

4 เคล็ดลับความสำเร็จของเมจิ-แพนด้าฟีเวอร์ Hello Panda
ขนม Hello Panda ที่มีต้นกำเนิดในช่วงกระแสแพนด้าฟีเวอร์ในญี่ปุ่น

อีกขนมของเมจิที่เปรียบเป็นจดหมายเหตุเช่นกันคือ “Hello Panda Pop’n Go” (ฮัลโหลแพนด้า ป๊อบ แอนด์ โก) หรือเดิมชื่อ Konnichiwa Panda (คนนิจิวะ แพนด้า) เป็นขนมที่ถูกปล่อยออกมาในปี 1987 ซึ่งตรงกับช่วงกระแสแพนด้าฟีเวอร์จากการที่มีแพนด้าเข้ามาอยู่ในสวนสัตว์อุเอโนะนั่นเอง ปัจจุบัน Hello Panda Pop’n Go มีจำหน่ายใน 40 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ถือเป็นขนมที่อยู่มานานมากๆ ตัวหนึ่งของเมจิ แถมมีกิมมิกคือดีไซน์รูปแพนด้าเล่นกีฬาที่ว่ากันว่ามีมากถึง 100 แบบด้วยกัน!

4. เล่นกับคนรักช็อกโกแลตอยู่เสมอ

4 เคล็ดลับความสำเร็จของเมจิ-Gummy Choco
Gummy Choco ขนมช็อกโกแลตแฟนซีของเมจิ

แต่ใดๆ ก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์สำคัญของช็อกโกแลตเมจิคือการเล่นกับกลุ่มคนรักช็อกโกแลตอยู่เสมอ วิธีหนึ่งคือการออกช็อกโกแลตแฟนซีน่าลองอยู่เสมอ เช่น Gummy Choco (กัมมี่ ช็อกโก) ขนมช็อกโกแลตนมไส้กัมมี่ผลไม้ที่ให้ความอร่อยแบบแปลกใหม่ ปัจจุบัน Gummy Choco เป็นขนมที่ไม่มีจำหน่ายในญี่ปุ่นแล้ว แต่ยังมีจำหน่ายในประเทศจีน ประเทศไทย และสหรัฐอเมริกา เจ้าขนมนี่จึงเป็นแรร์ไอเท็มที่คนญี่ปุ่นตามหากันให้ทั่ว!

4 เคล็ดลับความสำเร็จของเมจิ-Kinoko vs Takenoko
(ซ้าย) ขนม Kinoko no Yama และ (ขวา) ขนม Takenoko no Sato

อีกวิธีคือการสร้างและรักษากระแส “ทีมเห็ด” และ “ทีมหน่อไม้” ด้วยขนม “Kinoko no Yama” (คิโนโกะ โนะ ยามะ)​ ขนมช็อกโกแลตนมรูปเห็ด (จำหน่ายครั้งแรกปี 1975) ที่ต่อยอดมาจาก Apollo และ “Takenoko no Sato” (ทาเคโนะโกะ โนะ ซาโตะ) ขนมช็อกโกแลตนมรูปหน่อไม้ที่กำเนิดขึ้นมาทีหลังในปี 1979 ด้วยความที่ Kinoko no Yama ใช้แป้งแครกเกอร์ ในขณะที่ Takenoko no Sato ใช้แป้งคุกกี้ ทำให้ขนมทั้ง 2 เป็นขนมช็อกโกแลตนมที่อร่อยคนละแบบ แต่หน้าตาคล้ายกันมาก

ผลลัพธ์คือผู้บริโภคแตกฝ่ายออกเป็น “ทีมเห็ด” และ “ทีมหน่อไม้” ที่คอยผลัดกันเชียร์ขนมฝั่งตัวเองอย่างดุเดือดไม่มีแผ่ว และเมจิก็หยิบความเป็นคู่แข่งของขนมทั้ง 2 มาใช้ในการโปรโมทขนมอยู่เสมอ ถ้าให้เทียบก็คงเหมือนกีฬาสีตามงานโรงเรียนของคนไทยเรานั่นเอง แถมในอนาคตเมจิยังมีแพลนจะขยาย Kinoko no Yama และ Takenoko no Sato ไปทั่วโลกอีกด้วย ไม่แน่ว่าหลังจากนี้ ทั้งโลกอาจจะถูกแบ่งออกเป็นทีมเห็ดและทีมหน่อไม้ก็ได้ใครจะรู้!

4 เคล็ดลับความสำเร็จของเมจิ-สรุป

โดยสรุปแล้ว กล่าวได้ว่าสิ่งที่เป็นองค์ประกอบในสูตรความสำเร็จของเมจิก็คือการรักษารากฐานในฐานะผู้ผลิตช็อกโกแลตในญี่ปุ่นไว้อย่างมั่นคง ดังจะเห็นได้จากช็อกโกแลตนมเมจิ และในขณะเดียวกันก็ขยายขอบเขตของการทำขนมช็อกโกแลตอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ช็อกโกแลตเป็นขนมที่อร่อยได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ การให้ช็อกโกแลตผูกเข้ากับเรื่องราวและความเป็นไปของสังคมญี่ปุ่นและสังคมโลก และการดึงให้คนเข้ามาสนุกกับช็อกโกแลตอยู่เสมอ ที่ผสมรวมกันเป็นความสำเร็จของเมจิอย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้

และนอกจากความสำเร็จในฐานะแบรนด์ผู้นำด้านช็อกโกแลตในญี่ปุ่นแล้ว เมจิยังขึ้นชื่อในฐานะผู้นำด้านอาหารและยาของญี่ปุ่นด้วยนะ! โดยมีสินค้าเช่น “เมจิอะมิโน คอลลาเจน” คอลลาเจนที่มีขนาดโมเลกุลพอเหมาะสำหรับการดูดซึมของร่างกายเพื่อคนวัยทำงานที่อยากดูแลตัวเอง และ “EZCUBE” นมผงเด็กแบบก้อนที่ใช้ง่ายไม่ต้องตวงแถมมีคุณค่าทางสารอาหารครบตามมาตรฐานเมจิ ซึ่งล้วนมีวางขายในประเทศไทยด้วย ถ้ามีโอกาส เราจะลองมาดูความสำเร็จของเมจิในวงการอาหารและยากันบ้าง!

และถ้าเพื่อนๆ อยากติดตามว่าเมจิในประเทศไทยมีอะไรใหม่ๆ มาให้เราได้สัมผัสความเป็น “เมจิ” กันบ้าง ติดตาม Official Fanpage ของเมจิกันได้ที่นี่

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับขนมของเมจิที่นี่

Meiji Chocolate & Sweet Café

4 เคล็ดลับความสำเร็จของเมจิ-กิจจกรมชิงรางวัล

แถมท้าย! รีวิว 3 ขนมแบรนด์เมจิที่ต้องลอง!

อันดับ 1: Chocorooms / Kinoko no Yama

4 เคล็ดลับความสำเร็จของเมจิ-Kinoko no Yama & Chocorooms รีวิว

ถ้าสังเกตดีๆ ในประเทศไทยเราจะเห็นขนมที่ว่านี้ทั้งในรูปแบบแพ็กเกจที่เขียนว่า​ “Chocorooms” และที่เขียนภาษาญี่ปุ่นว่า “きのこの山” (Kinoko no Yama)​ แน่นอนว่าขนมทั้ง 2 แพ็กเกจนี้เป็นขนมตัวเดียวกัน แต่ต่างกันที่แหล่งผลิตและรสชาติ!

โดย Chocorooms เป็นขนมที่ผลิตที่สิงคโปร์ และรสชาติช็อกโกแลตจะเบากว่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบช็อกโกแลตนมแบบไม่หวานเข้มข้นมากนัก ในขณะที่ Kinoko no Yama เป็นขนมที่ผลิตและส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีรสชาติช็อกโกแลตที่เข้มข้นกว่าเพราะมีชั้นช็อกโกแลตนมซ่อนอยู่นั่นเอง! ถือเป็นขนมที่ให้เราอร่อยกับช็อกโกแลตนมฉบับเมจิแบบเน้นๆ พร้อมแคร็กเกอร์กรุบกรอบมาเสริมความอร่อย ซึ่งการจับคู่ที่เรียบง่ายนี้เองที่ทำให้ Chocorooms / Kinoko no Yama เป็นขนมที่ใครๆ ก็อร่อยได้ แถมหยุดกินยากด้วย!

อันดับ 2: Hello Panda Pop’n Go

4 เคล็ดลับความสำเร็จของเมจิ-Hello Panda Pop'N Go รีวิว

Hello Panda Pop’n Go เป็นขนมที่มีรูปคาแรกเตอร์แพนด้าน่ารักเล่นกีฬา จุดนี้เป็นกิมมิกที่สื่อถึงจุดเด่นของขนม ซึ่งเป็นขนมบิสกิตไส้ช็อกโกแลตที่กินง่าย ไม่เลอะมือ แถมอิ่มพอดีเหมาะเป็นของกินรองท้อง จึงตอบโจทย์คนที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟเช่นคนที่เล่นกีฬาเป็นต้น หรือจะพกติดกระเป๋าไว้กินระหว่างเที่ยวข้างนอกก็ได้อีกเหมือนกัน ถ้าใครชอบเนื้อบิสกิตแน่นๆ เคี้ยวกรุบสนุกและเนื้อช็อกโกแลตเข้มข้นหวานกำลังดีล่ะก็ Hello Panda Pop’n Go เป็นขนมที่ตรงใจแน่นอน

อันดับ 3: Gummy Choco

4 เคล็ดลับความสำเร็จของเมจิ-Gummy Choco รีวิว

ลำพังช็อกโกแลตนมของเมจิและกัมมี่ผลไม้ก็อร่อยในตัวมันเองอยู่แล้ว แต่ถ้าเอา 2 ความอร่อยนี้มารวมกันล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้น? Gummy Choco เป็นขนมที่เอาความคิดเล่นๆ นี้มาทำให้เป็นจริง ตอนกัดเข้าไปเราจะเจอกับความหวานนุ่มของช็อกโกแลตก่อน และตามด้วยรสสัมผัสเคี้ยวหนึบและความเปรี้ยวของกัมมี่ที่ตัดกับช็อกโกแลตได้ดี หลังกลืนลงคอไปจะมีโมเม้นต์ที่นั่งอึ้งตาปริบๆ นิดนึงว่า “เอ้ย! ก็อร่อยเหมือนกันนี่!” Gummy Choco มีให้เลือกอร่อยกัน 2 รสชาติ ได้แก่ไส้กัมมี่รสองุ่นไชน์มัสแคต และไส้กัมมี่รสสตรอว์เบอรี่

ลุ้นเซ็ตขนมจากเมจิส่งตรงถึงบ้าน! ตอบแบบสอบถาม 5 นาทีเพื่อร่วมสนุกได้เลย!

คลิ๊กลิ้งก์ด้านล่างเพื่อตอบแบบสอบถามสั้นๆ ใช้เวลาราว 5 นาที และลุ้นรับเซ็ตขนมจากเมจิ (มูลค่า 100 บาท) ได้เลย! จำกัดจำนวน 100 รางวัล ประกาศผลผู้โชคดีวันที่ 3 ตุลาคม 2024 ทางเพจ Conomi.co – ญี่ปุ่นที่ชอบ เรื่องราวที่ใช่

4 เคล็ดลับความสำเร็จของเมจิ-กิจจกรมชิงรางวัล

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า